หนึ่งในเหตุการณ์ที่กลายเป็นไวรัลระดับโลกจากสนามฟุตบอล คือจังหวะที่ เนย์มาร์ (Neymar) แสดงอาการเจ็บตัวเกินจริงในแมตช์ บราซิล พบ เม็กซิโก ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของ ฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย เหตุการณ์นี้ไม่ได้แค่เรียกเสียงฮาจากผู้ชมทั่วโลก แต่ยังกลายเป็นบทเรียนเรื่อง “จิตวิญญาณนักกีฬา” ที่ถูกพูดถึงมาจนถึงทุกวันนี้

ในนาทีที่ 70 ของเกม เนย์มาร์ถูกนักเตะเม็กซิโกชื่อ Miguel Layún เหยียบข้อเท้าเบาๆ ขณะอยู่ริมเส้นข้างสนาม แต่เขากลับแสดงปฏิกิริยารุนแรงเกินเหตุ ด้วยการ กลิ้งไปมากถึง 4-5 รอบ พร้อมร้องออกมาเหมือนเจ็บหนัก กล้องถ่ายทอดสดจับภาพได้ชัดเจนว่าไม่ได้มีการปะทะรุนแรงอย่างที่เขาแสดงออก

แม้กรรมการจะไม่หลงกลและไม่แจกใบอะไรให้คู่แข่ง แต่ภาพ “เนย์มาร์กลิ้ง” ได้ถูกแชร์ออกไปอย่างรวดเร็ว จนเกิดชาเลนจ์ในโลกออนไลน์ที่ชื่อว่า #NeymarChallenge ซึ่งผู้คนทั่วโลกต่างพากันเลียนแบบท่ากลิ้งของเขา ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ ไปจนถึงสัตว์เลี้ยง เรียกได้ว่ากลายเป็นไวรัลข้ามวงการกีฬาอย่างแท้จริง

แม้เนย์มาร์จะออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เขา “เจ็บจริง ไม่ได้ตั้งใจแกล้ง” แต่หลายฝ่ายก็ไม่เชื่อ และมองว่าเป็นการแสดงโอเวอร์ที่ทำลายภาพลักษณ์ของตัวเขาเอง จากสถิติยังระบุว่า ในฟุตบอลโลกครั้งนั้น เนย์มาร์ใช้เวลา นอนกับพื้นรวมมากกว่า 14 นาที ตลอดทัวร์นาเมนต์ ซึ่งมากเกินกว่านักเตะทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด

เหตุการณ์นี้ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของเนย์มาร์ในฐานะนักเตะชื่อดังอย่างมาก หลายคนยกให้เขาเป็น “นักแสดงยอดเยี่ยมแห่งฟุตบอลโลก” และเริ่มวิจารณ์พฤติกรรม “พุ่งล้ม” หรือ “แกล้งเจ็บ” ในสนามฟุตบอลมากขึ้น จนทำให้ FIFA เองต้องพูดถึงเรื่อง Fair Play และการใช้ VAR เพื่อลดปัญหานี้

กรณี “เนย์มาร์แกล้งเจ็บ” ถือเป็นหนึ่งใน เหตุการณ์ฟุตบอลแปลกๆ ที่ทั้งตลกและน่าคิดไปพร้อมกัน เป็นตัวอย่างว่าความสามารถในสนามอาจถูกบดบังได้ด้วยพฤติกรรมไม่เหมาะสม และเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่แฟนบอลทั่วโลกยังพูดถึงจนถึงทุกวันนี้



Post a Comment

ใหม่กว่า เก่ากว่า