จุดโทษ 'ชิป' เหนือชั้นของ ปิแอร์โล่ ยูโร 2012

วีรกรรมที่แสดงให้เห็นถึงความเยือกเย็นและความกล้าหาญทางความคิดของ อันเดรีย ปิร์โล่ จอมทัพผู้สง่างามของทีมชาติอิตาลี ในศึกยูโร 2012 รอบก่อนรองชนะเลิศ ที่ต้องเผชิญหน้ากับคู่ปรับตลอดกาลอย่าง อังกฤษ เกมนี้ต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ และจังหวะที่ ปิร์โล่ ก้าวออกไปยิงประตูที่สองของทีมอิตาลี คือช่วงเวลาที่เขาได้เปลี่ยนความตึงเครียดให้กลายเป็นตำนานแห่งความเยือกเย็น

สถานการณ์ในตอนนั้นตึงเครียดถึงขีดสุด หลังจากการยิงจุดโทษผ่านไปคนละสองครั้ง สกอร์เสมอกันอยู่ที่ 2-2 แต่โมเมนตัมดูเหมือนจะเทไปทางอังกฤษ เนื่องจาก ริคคาร์โด้ มอนโตลิโว่ ของอิตาลี เพิ่งยิงพลาดไปก่อนหน้านี้ ทำให้แรงกดดันทั้งหมดมาตกอยู่ที่ ปิร์โล่ ซึ่งต้องยิงเป็นคนที่สาม หากเขายิงพลาดอีกครั้ง โอกาสที่อิตาลีจะตกรอบย่อมสูงลิบ

เมื่อเสียงนกหวีดดังขึ้น ปิร์โล่ เดินเข้าหาลูกบอลด้วยสีหน้าเรียบเฉยอย่างที่สุด โดยมี โจ ฮาร์ท ผู้รักษาประตูทีมชาติอังกฤษพยายามใช้ภาษากายและการเคลื่อนไหวที่ดุดันเพื่อกดดันเขา แต่ในวินาทีสำคัญนั้น ปิร์โล่ตัดสินใจเลือกวิธีการยิงจุดโทษที่เสี่ยงที่สุดและหยามเกียรติที่สุด นั่นคือการยิงแบบ "ชิพ" (Chip) หรือที่เรียกกันว่า "ปาเนนก้า (Panenka)"

ปิร์โล่ วางเท้าลงไปที่พื้นสนามอย่างมั่นคงและค่อย ๆ ช้อนลูกบอลเบา ๆ ให้ลอยโด่งเหนือกำแพงที่มองไม่เห็น ลูกบอลลอยละลิ่วอย่างเชื่องช้า เข้าไปตุงตาข่ายตรงกลาง ในขณะที่ โจ ฮาร์ท ผู้รักษาประตูอังกฤษพุ่งตัวไปด้านข้างสุดตัว การยิงที่เต็มไปด้วยความมั่นใจในตัวเองอย่างถึงที่สุดนี้ ได้ ทำลายขวัญ ของทีมชาติอังกฤษอย่างสิ้นเชิง

การยิงจุดโทษของ ปิร์โล่ ได้รับการยกย่องว่าเป็นการแสดงออกถึง ความเยือกเย็นภายใต้แรงกดดันสูงสุด และเป็นจุดเปลี่ยนทางจิตวิทยาของเกมอย่างแท้จริง หลังจากลูกยิงนั้น โมเมนตัมก็เปลี่ยนไปอยู่ฝั่งอิตาลีอย่างสมบูรณ์ พวกเขาเดินหน้าคว้าชัยชนะในการดวลจุดโทษด้วยสกอร์ 4-2 และผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศในที่สุด วีรกรรม "ชิพ" ของ ปิร์โล่ ที่ยูโร 2012 จึงถูกจดจำในฐานะบทเรียนสำคัญที่ว่า "ความกล้าบ้าบิ่น" ของอัจฉริยะสามารถเอาชนะความกดดันและเปลี่ยนเกมใหญ่ได้อย่างไร





Post a Comment

أحدث أقدم