“7–1 มหาวินาศที่เบโล ฮอริซอนเต” : เกมที่ทำให้ทั้งโลกอึ้ง และบราซิลต้องจำไปตลอดกาล
ย้อนรอยเกมฟุตบอลโลก 2014 ที่กลายเป็นไวรัลทั่วโลก เมื่อเยอรมนีถล่มบราซิลเจ้าภาพ 7–1 ในรอบรองชนะเลิศ “Mineirazo” โศกนาฏกรรมที่ยังติดตาแฟนบอลทั่วโลก
จุดเริ่มต้นของฝัน ฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิล
ปี 2014 คือปีที่ชาวบราซิลทั้งประเทศรอคอย เพราะฟุตบอลโลกกลับมาจัดใน “ดินแดนลูกหนัง” อีกครั้ง
แฟนบอลทั่วโลกเชื่อว่าทีมชาติบราซิลจะกลับมาคว้าแชมป์โลกบนแผ่นดินเกิดได้สำเร็จ หลังครั้งล่าสุดคือปี 2002
แต่ทุกอย่างกลับกลายเป็นฝันร้าย...
วันที่ 8 กรกฎาคม 2014 “ไมเนรายโซ” เกิดขึ้นจริง
ในรอบรองชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 2014 ที่สนาม เอสตาดิโอ ไมเนเรา เมืองเบโล ฮอริซอนเต
บราซิล พบกับ เยอรมนี โดยไม่มีเนย์มาร์ (บาดเจ็บ) และติอาโก้ ซิลวา (ติดโทษแบน)
ผลลัพธ์คือสิ่งที่ไม่มีใครลืมได้...
เยอรมนีขึ้นนำตั้งแต่นาทีที่ 11 จากมุลเลอร์ และหลังจากนั้นเพียง 6 นาที เยอรมนียิงเพิ่มอีก 4 ลูก
สกอร์ขยับเป็น 5–0 ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง
แฟนบอลทั้งสนามเงียบสนิทเหมือนถูกปิดเสียงโลก
น้ำตาแห่งชาติ ภาพที่กลายเป็นไวรัลตลอดกาล
หลังจบเกมที่เยอรมนีถล่มบราซิล 7–1 ภาพจากสนามกลายเป็นไวรัลทันที
- เด็กชายบราซิลถือถ้วยฟุตบอลโลกจำลองแล้วร้องไห้
- แฟนสาวชาวบราซิลกอดถ้วยจำลองทองคำแน่น น้ำตาไหลไม่หยุด
- กล้องจับภาพแฟนบอลเยอรมันที่ ไม่กล้าเฮ เพราะรู้สึกสงสารเจ้าภาพ
- นักเตะเยอรมันหลายคนเข้าไปปลอบเพื่อนร่วมอาชีพชาวบราซิลที่ร้องไห้คาแข้ง
ภาพเหล่านี้ถูกแชร์ไปทั่วโลกในเวลาไม่กี่ชั่วโมง และทำให้คำว่า
“Brazil 1–7 Germany” กลายเป็นคำจำกัดความของ “ความพ่ายแพ้อย่างเจ็บปวด”
“ไมเนรายโซ” – คำใหม่ในประวัติศาสตร์ลูกหนัง
แฟนบอลบราซิลเรียกเหตุการณ์นี้ว่า “Mineirazo” (ไมเนรายโซ)
โดยเทียบกับคำว่า “ไมเนรายโซ” ซึ่งหมายถึงเหตุการณ์บราซิลแพ้อุรุกวัยในนัดชิงฟุตบอลโลกปี 1950 ที่สนามมารากาน่า
สองเหตุการณ์นี้ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ฟุตบอลบราซิล
ว่าเป็น “วันที่หัวใจของประเทศแตกสลาย”
ผลกระทบหลังเกม
- บราซิลพ่ายแพ้ด้วยผลต่างมากที่สุดในประวัติศาสตร์ทีมชาติ
- โค้ช Luiz Felipe Scolari ถูกปลดหลังทัวร์นาเมนต์
- เยอรมนีคว้าแชมป์โลกในเวลาต่อมา ด้วยการชนะอาร์เจนตินา 1–0 ในนัดชิง
- “7–1” กลายเป็นมุกตลอดกาลของโลกออนไลน์ เช่น “เมื่อเพื่อนยืมเงิน 7 คืนมา 1 นี่มันบราซิลกับเยอรมนีชัดๆ!”
7–1 กลายเป็นคำเปรียบตลอดกาล
ทุกครั้งที่มีทีมใด “โดนถล่มเละ” ไม่ว่าลีกไหน ก็มักมีแฟนบอลคอมเมนต์แซวว่า
“นี่มัน 7–1 อีกแล้ว!” จนกลายเป็นมีมลูกหนังที่ถูกใช้ไม่รู้จบ
แม้เวลาจะผ่านมากว่า 10 ปี แต่ “7–1 ที่เบโล ฮอริซอนเต” ยังเป็นหนึ่งใน ตำนานดราม่าฟุตบอลที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในโลก
ไม่ใช่แค่เพราะผลสกอร์ที่เหลือเชื่อ แต่เพราะมันสะท้อนให้เห็นว่า —
“ในฟุตบอล ไม่มีใครใหญ่เกินเกม”
"อาร์เซน่อล"ครองจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก พร้อมสถิติยิงลูกเตะมุมมากสุดในยุโรป!
สไตล์การเล่นของ โทมัส มุลเลอร์
🎉 สมัครสมาชิกวันนี้!
🌟 ลุ้นรับสิทธิพิเศษและร่วมสนุกกับกิจกรรมดีๆ มากมาย
📲 คลิกที่นี่เลย 👉 https://line.me/R/ti/p/@pz99









إرسال تعليق