ดาเนียล อโมคาชี่: ฮีโร่ไนจีเรียที่เปลี่ยนเกม เอฟเอคัพ 1995 แบบสุดคลาสสิก
ในโลกของฟุตบอล มีไม่กี่เหตุการณ์ที่จะถูกจดจำตลอดกาลเหมือน ดาเนียล
อโมคาชี่ ในศึก เอฟเอคัพ 1995 รอบรองชนะเลิศ ที่ เอฟเวอร์ตัน พบกับ สเปอร์ส
ที่สนาม เอลแลนด์ โร้ด ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในความบ้าบิ่นและดราม่าที่แฟนบอลไม่มีวันลืม
นาทีชี้ชะตา: กองหน้าเจ็บ แต่โค้ชยังลังเล
เกมเริ่มเข้มข้น เอฟเวอร์ตันกำลังตามหลังหรือเสมอ? ไม่ใช่—ในขณะนั้น เอฟเวอร์ตันนำอยู่ 2-1 แต่แล้วนาทีที่
70 กองหน้า พอล ไรด์เอาต์ บาดเจ็บนอนแน่นิ่งบนสนาม
โค้ช โจ รอยล์ ยังลังเล ไม่รีบเปลี่ยนตัว
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นถัดไปกลับกลายเป็นเรื่อง ตำนาน
ความกล้าบ้าบิ่นของอโมคาชี่
ดาเนียล อโมคาชี่ ผู้เล่นสำรอง ไม่สามารถนั่งดูอยู่เฉยได้
เขารีบวิ่งไปที่ผู้ช่วยโค้ช (บางแหล่งระบุว่าเป็นผู้ตัดสินที่ 4) แล้ว "โกหก" ว่าได้รับคำสั่งจากโค้ชให้ลงสนาม
ทันทีที่เขาวิ่งลงสนาม อโมคาชี่กลายเป็น ตัวสำรองที่กลายเป็นฮีโร่ทันที
การเปลี่ยนตัวที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่ไม่เคยเกิดขึ้น
โค้ช โจ รอยล์ ถึงกับโกรธจัด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
เพราะการเปลี่ยนตัวได้ถูกบันทึกเรียบร้อยแล้ว
และไม่กี่นาทีต่อมา ความกล้าบ้าบิ่นของอโมคาชี่กลับกลายเป็น ความอัจฉริยะ
เขาซัดคนเดียว 2 ประตู ใน นาทีที่ 82 และประตูตอกฝาโลงในนาทีสุดท้าย
ผลการแข่งขัน: เอฟเวอร์ตันชนะ 4-1 ผ่านเข้าสู่รอบชิง เอฟเอคัพ
โค้ชโจ รอยล์เองยังกล่าวติดตลกว่า: "มันคือ การเปลี่ยนตัวที่ยอดเยี่ยมที่สุด ที่ผมไม่เคยทำ!"
อโมคาชี่เผยความในใจ
หากยิงไม่สำเร็จ เกมนี้อาจกลายเป็น เกมสุดท้ายของเขากับเอฟเวอร์ตัน อโมคาชี่เปิดเผยภายหลังถึงความเสี่ยงและความกล้าของตัวเอง
นี่คือหนึ่งใน ตำนาน เอฟเอคัพ 1995 ที่แสดงให้เห็นว่าในฟุตบอล
ความกล้าและสัญชาตญาณสามารถเปลี่ยนเกมได้ในพริบตา
ทำไมเหตุการณ์นี้ถึงถูกจดจำ
1.ฮีโร่ที่เกิดจากความบ้าบิ่น – ไม่มีใครคาดคิดว่าผู้เล่นสำรองจะกล้า “โกหก” เพื่อเปลี่ยนเกม
2.ประตูเปลี่ยนเกม – การยิง 2 ประตูภายในไม่กี่นาที
ทำให้เอฟเวอร์ตันทะยานสู่รอบชิงฯ
3.คำพูดติดปากของโค้ช –
“The greatest substitution I never made!” กลายเป็นวลีคลาสสิกในโลกฟุตบอล


.jpg.jpg)
.jpg)





إرسال تعليق