เรเน่ ฮิกีต้า: ตำนาน "Scorpion Kick" ผู้รักษาประตูบ้าบิ่นที่โลกต้องจดจำ
หากพูดถึงผู้รักษาประตูที่กล้าได้กล้าเสียที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอล ชื่อของ เรเน่ ฮิกีต้า ต้องติดอันดับต้น ๆ อย่างไม่ต้องสงสัย โดยเฉพาะการสร้างปรากฏการณ์ “Scorpion
Kick” หรือท่ายิงบอลแบบแมงป่องที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในช็อตที่บ้าคลั่งที่สุดและถูกพูดถึงมากที่สุดตลอดกาล
เหตุการณ์ Scorpion
Kick ในตำนาน
- วัน/ปี: 6 กันยายน 1995
- การแข่งขัน: ฟุตบอลกระชับมิตร อังกฤษ vs โคลอมเบีย
- สนาม: เวมบลีย์ กรุงลอนดอน
- ผู้ยิงบอลโด่ง: เจมี่ เร้ดแนปป์ นักเตะทีมชาติอังกฤษ
จังหวะนั้นเป็นลูกโด่งที่ดูเหมือนจะลอยข้ามศีรษะของฮิกีต้าทางหลังประตู ซึ่งผู้รักษาประตูทั่วไปสามารถรับบอลได้ง่าย ๆ แต่ฮิกีต้ากลับเลือกทำสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด...
ทำไมถึงต้องทำ Scorpion
Kick?
ด้วยฉายา “El
Loco” หรือ “ไอ้บ้า” ฮิกีต้าตัดสินใจ:
1. วิ่งไปด้านหน้า
2. พุ่งตัวไปข้างหน้า
3. ยกขาขึ้นเหนือศีรษะ
4. ใช้ส้นเท้าทั้งสองข้างเตะบอลที่ลอยอยู่ด้านหลังตัวเอง
ท่าทางทั้งหมดเหมือนแมงป่องกำลังใช้หางต่อย จึงเป็นที่มาของชื่อ Scorpion
Kick นั่นเอง
ความบ้าบิ่นและตำนานที่โลกจดจำ
- ความมั่นใจ (หรือความบ้า) ที่ไร้ขีดจำกัด: การทำท่านี้ในสนามเวมบลีย์ที่เต็มไปด้วยผู้ชม แสดงให้เห็นถึงความกล้าเสี่ยงแบบสุดขั้ว เพราะหากพลาด ลูกบอลก็อาจเข้าประตูทันที
- โชคช่วยเล็กน้อย: จริง ๆ มีธงล้ำหน้าในจังหวะนั้น แต่คนทั้งโลกก็ยังพูดถึงความตื่นตาตื่นใจของท่าเซฟมากกว่ากฎ
- สไตล์ก่อนกาล: ฮิกีต้าเป็นผู้รักษาประตูที่กล้าเล่นนอกกรอบ และยังยิงฟรีคิก-ลูกโทษได้รวม 41 ประตูในอาชีพ ทำให้เขาเป็นต้นแบบของผู้รักษาประตูยุคใหม่
การเซฟครั้งนั้นไม่ได้เป็นแค่การป้องกันประตู แต่กลายเป็น โชว์เหนือระดับตำนาน ที่ตราตรึงใจแฟนบอลไปทั่วโลก
ทำไม Scorpion
Kick ถึงถูกจดจำตลอดกาล
1. เป็นภาพจำในประวัติศาสตร์ฟุตบอล: แม้จะเป็นเพียงฟุตบอลกระชับมิตร แต่ภาพฮิกีต้าพุ่งเตะบอลกลางอากาศยังถูกแชร์ต่อกันไม่รู้จบ
2. แสดงถึงสไตล์การเล่นแบบ El
Loco: ผู้รักษาประตูที่กล้าเสี่ยงและคิดนอกกรอบ
3. สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้รักษาประตูรุ่นใหม่: ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคการเล่นนอกกรอบหรือการใช้เท้าในการเล่นบอล
เรเน่ ฮิกีต้า จึงไม่ได้เป็นแค่ผู้รักษาประตู แต่เป็น สัญลักษณ์ของความบ้าบิ่นและความกล้า ที่โลกฟุตบอลต้องจดจำ
ท่า Scorpion
Kick ของเรเน่ ฮิกีต้าคือสุดยอดสัญลักษณ์ของผู้รักษาประตูที่ไม่ยอมเล่นตามกฎเพียงอย่างเดียว แต่สร้าง ปรากฏการณ์และความทรงจำ ที่ไม่มีใครลืมไปตลอดกาล
“เวเน่ กาซากรานดี้” ฟันธง! ยุคของ เนย์มาร์ ในทีมชาติบราซิลได้จบลงแล้ว








إرسال تعليق